fbpx

FULFILLMENT บริการคลังสินค้าออนไลน์ "เก็บ แพ็ค ส่ง"

3 เคล็ด(ไม่)ลับ การทำแบรนด์ที่ดี

braning cover
Education
Marketing

3 เคล็ด(ไม่)ลับ การทำแบรนด์ที่ดี

3 เคล็ด(ไม่)ลับ การทำแบรนด์ที่ดี

การสร้างแบรนด์ หรือ Branding คือการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับธุรกิจของคุณโดยใช้กลยุทธ์การตลาดและแคมเปญต่าง ๆ โดยมีเป้าหมายในการสร้างภาพลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์และยั่งยืนในตลาด ในเมื่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอของตลาดขึ้นอยู่กับ”มนุษย์”ที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การทำแบรนด์ให้ประสบความสำเร็จนั้นจึงไม่มีสูตรตายตัวครับ

หากต้องการขายของ คุณต้องผลิตสินค้าให้ดีมีคุณภาพ แต่หากต้องการขายของในระยะยาว แบรนด์ต้องแข็งแรงครับ แบรนด์ที่ดีคือแบรนด์ที่คนจดจำและเชื่อใจ ดังนั้นผมขอแบ่งส่วนสำคัญ ๆ ที่ต้องคำนึงถึงเมื่อสร้างแบรนด์ออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ ๆ นะครับ นั่นคือ 

          1. การทำแบรนด์ที่ดีตั้งแต่เริ่มต้นธุรกิจ 

          2.แบรนด์ที่ดีดำเนินธุรกิจอย่างไร 

          3. การต่อยอดแบรนด์ให้ยืนยาวในตลาด 


1. การทำแบรนด์ที่ดีตั้งแต่เริ่มต้นธุรกิจ 

            - แบรนด์ที่ดีต้องมีตัวตนต้องชัดเจน เป็นที่จดจำของตลาด 

          เริ่มตั้งแต่ต้นเลยครับ ตั้งแต่เริ่มคิดว่าอยากมีธุรกิจของตัวเอง ตั้งคำถามที่ว่า “แบรนด์ของเราจำเป็นต่อตลาดอย่างไร” เพราะสุดท้ายแล้วการผลิตสินค้าหรือบริการที่ตอบสนองความต้องการหรือช่วยแก้ปัญหาตลาดได้จริง ๆ นั่นแหล่ะครับ คือจุดมุ่งหมายหลักของการสร้างธุรกิจแบบยั่งยืน เราจึงต้องคำนึงถึงตลาดให้มาก ดังนั้นการทำ SWOT Analysis ที่เป็นการนำเอาจุดแข็งและจุดอ่อนรวมถึงโอกาสและอุปสรรค มาวิเคราะห์สถานะภาพของกิจการ เพื่อประโยชน์ในการวางแผน และสร้างกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจต่อไป ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงด้วยเช่นกันครับ 

          ขั้นตอนสำคัญต่อมาคือชื่อแบรนด์ สโลแกน โลโก้ ตัวสินค้า และแพ็กเกจ ขั้นตอนนี้ไม่ยากครับ แต่เยอะ หลักการง่าย ๆ ที่เขามักจะเเนะนำกันก็คือ ต้องกระชับและจำง่าย แต่ก็ไม่เสมอไป เพราะบางทีแบรนด์ที่มีชื่ออ่านยากจากต่างประเทศ ก็สร้างความตื่นเต้นตกใจให้ผู้บริโภคได้เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับสเต็ปต่อไปด้วยครับ นั่นคือ การทำโฆษณา เรียกได้ว่าก่อนที่เราจะนำเสนอแบรนด์ของเราออกสู่สายตาประชาชนนั้น เราต้องดูก่อนครับว่าอยากให้เราเป็นที่รู้จักต่อกลุ่มผู้บริโภคในรูปแบบไหน แบรนด์ ๆ หนึ่งก็เปรียบเหมือนกับคน ๆ หนึ่ง ที่จะมีไลฟ์สไตล์แตกต่างกันออกไปในแต่ละแบรนด์ เช่น แบรนด์นี้แสดงถึงความเรียบหรู สนุกสนาน รักสุขภาพ ขาลุยหรือชอบความสงบสุข โดยสิ่งที่แบรนด์เป็นหรือแนวคิดของแบรนด์ ก็จะทำให้การสื่อสารออกมามีความเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งก็จะแสดงออกมาผ่านตัวสินค้าหรือบริการ และลักษณะกลุ่มลูกค้าของแบรนด์นั้น ๆ สิ่งเหล่านี้แหล่ะครับที่จะเป็นตัวกำหนดว่าเราแตกต่างหรือไม่ โดดเด่นหรือไม่ แม้ว่าจะขายสินค้าหรือบริการที่ใกล้เคียงหรือเหมือนกัน

2. แบรนด์ที่ดีดำเนินธุรกิจอย่างไร 

            - ตัวแบรนด์ต้องมีความยืดหยุ่น พร้อมปรับเปลี่ยนตนเองตลอดเวลา

          เพราะยุคสมัยที่เปลี่ยนไป การใช้ตัวช่วยออนไลน์ในการโปรโมทให้แบรนด์เป็นที่รู้จักก็ถือว่าเป็นที่นิยมอยู่แล้วครับ แต่สมัยนี้การโปรโมทสินค้าเพียงอย่างเดียวไม่ตอบโจทย์ครับ เพราะการขายตรง ๆ อาจจะไม่สามารถดึงดูดลูกค้า หรือสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ได้ ดังนั้นการใช้ Online Tool ต่าง ๆ เช่น SEO, Online Ads โดยการให้ข้อมูลความรู้ หรือ แชร์สิ่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายหรือบุคคลทั่วไป ก็สามารถช่วยให้คนได้รู้จักแบรนด์ของเรามากขึ้นและเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี รวมถึงเป็นการขยายช่องทางการติดต่อกับกลุ่มลูกค้า ทำให้เกิดความใกล้ชิดกับลูกค้าได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อที่เราจะได้ รับฟังความเห็นของลูกค้าได้มากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่พึงทำอยู่เสมอ เพื่อจะได้นำไปพัฒนา ปรับปรุง แก้ไขแบรนด์ให้ดียิ่งขึ้นและมีประสิทธิภาพมากที่สุด ยิ่งถ้าเป็นแบรนด์เล็ก ๆ สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วและคล่องตัวอยู่แล้วครับ และอย่าลืมนะครับว่า “อย่าพูดในสิ่งที่เราอยากพูด แต่จงพูดในสิ่งที่ลูกค้าอยากฟัง” จะช่วยดึงดูดลูกค้าและเป็นที่พอใจของลูกค้ามากกว่าครับ 

          เมื่อแบรนด์เริ่มมีลูกค้าประจำ หรือเป็นที่รู้จักแล้ว ก็จะต้องทำให้แบรนด์ของเรานั้นอยู่ให้ได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยการทำให้ลูกค้าเป็นลูกค้าประจำของแบรนด์ สร้างด้วยการบอกต่อ หรือแนะนำหรือที่เรียกว่าสื่อในตัว เพราะเป็นการโปรโมทโดยที่เราไม่ต้องลงทุนเลย และการทำแบบนี้จะทำให้ลูกค้าใหม่ ๆ ของเราเชื่อถือในตัวแบรนด์และกลายมาเป็นลูกค้าประจำต่อ ๆ ไปครับ 


3. การต่อยอดแบรนด์ให้ยืนยาวในตลาด 

            - ต่อยอดขยับขยายแบรนด์เดิมด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ (New Line of Products)

          เมื่อแบรนด์ของเราเริ่มจะเป็นที่ยอมรับหรือเริ่มมั่นคงมากขึ้นแล้ว การต่อยอดธุรกิจให้เติบโตขึ้นก็เปรียบเสมือนการก้าวหน้าไปอีกขั้นของแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จ อาจทำได้โดยการสร้างความหลากหลายให้กับลูกค้า ค่อย ๆ เริ่มผลิตสินค้าหรือบริการใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจ โดยผมมี 2 กลยุทธ์ สำหรับการต่อยอดนี้ครับ 

         อย่างแรกคือ การผลิตสินค้าที่ใกล้เคียงกับของเดิม โดยพัฒนาจากที่มีอยู่แล้ว ข้อดีของกลยุทธ์นี้ก็คือ การที่เรามุ่งเน้นพัฒนาในสิ่งที่เราถนัดหรือสิ่งที่คล้ายกับที่เคยทำอยู่แล้ว ย่อมง่ายกว่าที่จะต้องไปศึกษาและผลิตสิ่งที่แตกต่างออกไปจริงไหมครับ ไม่เพียงแค่นั้นนะครับการผลิตสินค้าที่อยู่ในประเภทเดียวกับสินค้าเดิมที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้ว ลูกค้าจะมีความเชื่อมั่นในตัวสินค้ามากกว่า และยังสามารถสร้างความคุ้นเคยให้กับลูกค้าได้อีกด้วย แต่ข้อเสียของกลยุทธ์นี้ก็มีครับ อาจเป็นการจำกัดตัวเลือกในการซื้อของสินค้าแก่ผู้บริโภค เพราะยังเป็นการผลิตสินค้าประเภทเดิมอยู่ และอาจทำให้อาจเสียโอกาสที่จะขายสินค้าที่หลากหลายไป ถึงแม้ว่าแบรนด์ของเรานั้นจะเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงเพียงพอที่จะต่อยอดธุรกิจแล้วก็ตาม

          นอกจากการผลิตสินค้าใหม่แล้ว กลยุทธ์อีกอย่างที่อาจจะดูเหมือนขัดกับกลยุทธ์แรก แต่ก็เป็นตัวเลือกที่ดีให้กับเจ้าของแบรนด์ได้เลือกใช้กัน คือ การกระจายความหลากหลายของสินค้าให้ได้มากที่สุด การเปิดการตลาดใหม่เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ก็เป็นเรื่องที่สามารถทำได้เช่นกันครับ พยายามผลิตสินค้าใหม่ ๆ หลาย ๆ ประเภท เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าให้ได้มากที่สุด รองรับกับความต้องการของตลาดใหม่ ๆ ที่อาจเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ซึ่งข้อดีที่เห็นได้ชัดของกลยุทธ์นี้ก็คือ การที่เรามีสินค้าที่หลากหลายนั้นจะนำมาสู่ผลกำไรที่มากขึ้นครับ เช่น เราขายสินค้าประเภทสุขภาพและความงาม สินค้าที่เรามีตัวแรกคือ อาหารเสริมลดน้ำหนัก สินค้าที่เราผลิตเพิ่มตัวใหม่ ก็อาจจะเป็นอาหารเสริมเหมือนกันแต่ไม่ได้มีผลด้านการลดน้ำหนักแต่ไปช่วยด้านผิวพรรณแทน แบบนี้ก็ได้เช่นกันครับ หรือเพิ่มใหม่เป็นพวกเครื่องสำอางเลยก็ได้ภายใต้แบรนด์เดียวกัน สามารถสร้างสรรค์สินค้าที่หลากหลายได้ครับแต่ยังคง concept เดิมของเเบรนด์คือ ช่วยเรื่องสุขภาพและความงามและเราจะมีสินค้าที่ให้ลูกค้าได้เลือกซื้อที่ครอบคลุมความต้องการของลูกค้ามากขึ้น และโอกาสการซื้อขายก็จะเพิ่มตามครับ แต่หากสิ่งที่เราผลิตขึ้นมาใหม่ ไม่เป็นที่ต้องการของตลาดหรือไม่มีคุณภาพ ก็อาจทำให้ข้อดีกลายเป็นข้อเสียที่จะส่งผลต่อสินค้าที่กำลังไปได้ดีในแบรนด์อีกด้วย ดังนั้นการจะเลือกใช้กลยุทธ์แบบไหนในการต่อยอดแบรนด์ เราก็ต้องศึกษา และทำมันอย่างรอบคอบ ดูที่เหมาะสมกับแบรนด์เราและดูตลาดตอนนั้น ๆ ด้วยนะครับ

          MyCloudFulfillment ก็เป็นธุรกิจ Start Up ที่เริ่มมาจากแนวคิดที่อยากจะทำอะไรเกี่ยวกับเทคโนโลยีแล้วสามารถช่วยตลาด หรือแก้ปัญหาได้จริง ๆ ผมได้นำเอาสิ่งเดิมที่เคยมีก็คือคลังสินค้า มาบวกเทคโนโลยีเข้าไป จนเกิดเป็นคลัง MyCloud คลังสินค้าออนไลน์ ที่ช่วยแก้ปัญหาให้กับร้านค้าออนไลน์ โดยคำนึงถึงปัญหาหลังบ้านของผู้ขาย ไม่ว่าจะเป็น พื้นที่ที่จำกัดในการเก็บสินค้า ไม่มีเวลาแพ็คสินค้า ไม่ว่างไปส่งของ หรืออยากที่จะลดค่าต้นทุนแฝงต่าง ๆ โดยอยากให้ผู้ประกอบการมองเราเป็นเสมือนเพื่อนหรือทีมเดียวกันที่ช่วยให้คุณสามารถจัดการร้านค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเติบโตไปพร้อม ๆ กันแบบยั่งยืนครับ

สนใจศึกษาและลงทะเบียนได้ที่ www.mycloudfulfillment.com
หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร: 092-472-7742, 02-138-9920
อีเมล: hello@mycloudfulfillment.com
line: @mycloudgroup
MyCloudFulfillment ขายของง่ายไม่ต้องแตะสต๊อก
บริการคลังสินค้าออนไลน์ เก็บ แพ็ค ส่ง ครบวงจร

    ขอใบเสนอราคา

    ฟอร์มการติดต่อสอบถามและขอใบเสนอราคา