รู้จักกลุ่มเป้าหมายของเราให้ดีพอก่อนยิง โฆษณา (Ads!)

           เคยสงสัยไหมว่าคุณจะยิง Ads แต่ละที ต้องเลือกกลุ่มลูกค้าอย่างไรบ้างถึงจะตรงตามเป้าหมายที่โฆษณาเหล่านั้นต้องการจะสื่อ เพราะโฆษณาแต่ละตัวก็มีกลุ่มเป้าหมายแตกต่างกันครับ การที่คุณกำหนดขอบเขตให้แคบลง จะทำให้โฆษณานั้นเข้าถึงลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และตรงตามความต้องการมากขึ้น อีกทั้งยังประหยัดค่าใช้จ่ายในการโฆษณา และยังเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้อีกด้วย รู้อย่างนี้เเล้วเรามารู้จักลูกค้าให้มากขึ้น เพื่อ scope กลุ่มเป้าหมายเวลายิง Ads กันดีกว่าครับ สำหรับสินค้าหรือบริการที่เกิดขึ้นใหม่ ต้องรู้จัก Early adopter และหาโอกาสเข้าถึงพวกเขาให้ได้ครับ เพราะถ้าเขารู้จักเรา ใช้ของเราเมื่อไร แปลว่าเราเริ่มมาถูกทาง กำลังจะดังแล้วครับ 

          ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่ากลุ่มลูกค้าอาจจะ ยอมรับหรือเปิดใจลองใช้สินค้าและบริการของเราในระยะเวลาที่ไม่เท่ากัน ซึ่งเราจะใช้ลักษณะนี้เป็นเกณฑ์ โดยกลุ่มลูกค้าสามารถแบ่งออกได้เป็น 5 ลักษณะ 

1. กลุ่มลูกค้าล้ำสมัย หรือ innovators

          กลุ่มคนล้ำสมัย มีอยู่ 2.5 % ของตลาดครับ เมื่อมีสินค้าที่เกิดขึ้นใหม่ พวกเขาเหล่านี้เป็นกลุ่มบุคคลแรกที่จะทดลองใช้ โดยส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่ชอบความท้าทาย มองหาสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ และยอมรับความเสี่ยงได้มาก คนกลุ่มนี้มีแนวโน้มที่จะมีรายได้สูง และคิดว่าตัวเองจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะเริ่มต้นหรือการเปลี่ยนแปลงอะไรใหม่ ๆ ได้

       2. กลุ่มลูกค้านำสมัย หรือ early adopters

          เรียกได้ว่าเป็น กลุ่มคนหัวก้าวหน้า กลุ่มคนนำสมัย มีอยู่ประมาณ 13.5% ของตลาด เป็นกลุ่มที่สองที่จะซื้อสินค้าหรือบริการ เป็นคนที่เป็นที่รู้จัก หรือมีชื่อเสียงในสังคม และมองเห็นความได้เปรียบในการใช้สินค้าหรือบริการเหล่านั้น พูดง่าย ๆ คือ พวกเขาทันกระแส และรู้ว่าอะไรจะมาแรง อีกทั้งยังสามารถดึงดูด หรือมีอิทธิพลต่อความคิดของคนอื่น ๆ อีกด้วยครับ

       3. กลุ่มคนทันสมัย หรือ early majority

          เป็นกลุ่มที่ใช้ความรอบคอบ มีเหตุผลในการตัดสินใจ จะมีมีอยู่ประมาณ 34% ของตลาด ก่อนซื้อสินค้าหรือบริการจะมีการประเมินคุณค่า คุณสมบัติและประโยชน์ที่จะได้รับก่อนเสมอ กลุ่มคนเหล่านี้จะไม่ตัดสินใจตามอารมณ์ครับ

       4. กลุ่มคนล้าสมัย หรือ late majority

          กลุ่มคนล้าสมัย มีอยู่ประมาณ 34% ของตลาดเช่นกันครับ เป็นกลุ่มที่มีความสงสัยและไม่มั่นใจในสินค้าและบริการใหม่ว่าจะมีประโยชน์หรือไม่ จึงใช้เวลาค่อนข้างมากในการตัดสินใจซื้อหรือใช้บริการ แน่นอนครับว่าคนกลุ่มนี้จะใช้หลังจากกลุ่มทันสมัยให้การยอมรับแล้ว หรือรีวิวแล้วเพื่อที่พวกเขาจะได้นำไปประกอบการตัดสินใจครับ

       5. กลุ่มคนตกยุค หรือ laggards

          เป็นกลุ่มสุดท้ายแล้วครับ คนกลุ่มนี้มีอยู่ประมาณ 16 % ของตลาด เป็นกลุ่มที่จะซื้อสินค้าหรือใช้บริการก็ต่อเมื่อสินค้านั้นตกรุ่นไปแล้วมีสิ่งใหม่เข้ามาแทนคนกลุ่มนี้อาจเป็นกลุ่มที่ไม่มีกำลังทรัพย์มากพอที่จะซื้อสินค้าตามเทรนด์หรือ พวกเขาไม่สนใจเทคโนโลยีใหม่ ๆ และอาจจะต่อต้านการเปลี่ยนแปลงเสียด้วยซ้ำครับ 

          ผู้ประกอบการที่เข้าใจลักษณะของลูกค้าทั้งหมดเเล้ว จะสามารถประยุกต์ใช้ในการยิง Ads และวางแผนการทำการตลาดอื่น ๆ ได้อย่างเหมาะสม และตามที่ผมบอกไปตั้งแต่เเรกครับ ว่ากลุ่มที่เราควรให้ความสนใจเวลายิง Ads สำหรับแคมเปญใหม่ ๆ แล้วนั้นคือ กลุ่ม early adopters เพราะที่จริงการที่จะทำให้ธุรกิจของคุณติดตลาด ต้องอาศัยกลุ่มเป้าหมาย 2 กลุ่มนั่นคือ early adopters และ early majority ซึ่งเป็นกลุ่มที่ใหญ่กว่าก็จริง แต่ไม่ใช่กลุ่มคนที่จะตัดสินใจใช้สินค้าเป็นกลุ่มแรก ๆ จึงต้องเจาะตลาดไปยังกลุ่ม early adopters ให้เห็นว่าเห็นว่าสินค้าหรือบริการใช้งานได้มีประสิทธิภาพและคุ้มค่าต่อการลงทุน และให้พวกเขาแนะนำต่อนั่นเองครับ

          โดยการการกำหนดเป้าหมายและทิศทางในการทำ promotion ว่าจะทำไปเพื่อลูกค้ากลุ่มใด จะได้ออกแบบให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากที่สุดนั้น สามารถทำได้โดยการใช้วิธีที่เป็นพื้นฐานของคนทำการตลาดนั่นก็คือกลยุทธ์ STP

       STP ประกอบไปด้วย 3 ขั้นตอน

          1. Segmentation คือการจัดแบ่งส่วนตลาดให้มีขนาดเล็กลง โดยแบ่งผู้คนออกเป็นกลุ่มก้อนตามลักษณะเฉพาะที่คล้ายคลึงกัน ไม่ว่าจะเป็น เพศ ภูมิภาค อาชีพ รายได้ Lifestyle หรือพฤติกรรมการซื้อสินค้า

          2. Target เมื่อได้กลุ่มก้อนจากขั้นตอนแรกแล้ว ต่อไปคือการเลือกกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน ว่ากลุ่มไหนน่าจะเป็นลูกค้าหลักของเราโดยเลือกจากกลุ่มที่แบ่งมาแล้วใน ขั้นตอน segmentation เพื่อจะใช้ในการวางแผนแผนการตลาด และวิธีการนำเสนอต่อลูกค้าให้เหมาะสม โดยเลือกได้หลัก ๆ 3 วิธี คือ

           - Mass Market เลือกกลุ่มที่แบ่งมาแบบไม่เจาะจงมากเช่น กลุ่มลูกค้าเพศชาย

           - Segment Market ที่ย่อยกลุ่มเป้าหมายออกมาจากการทำ segmaentation เช่น กลุ่มลูกค้าเพศชายที่ชอบแต่งตัว

           - Niche Market เลือกตลาดเฉพาะกลุ่ม ที่เจาะจงมากที่สุด เช่น กลุ่มลูกค้าเพศชายที่ชอบแต่งตัวแนวSTREET และฟังเพลงฮิปฮอปเป็นต้น

          3. Position เมื่อเลือกตลาดที่ต้องการแล้ว ต้องกำหนดตำแหน่งของสินค้าเเละบริการในตลาดนั้น ๆ ว่าอยากให้ลูกค้ามองเราอยู่ในตำแหน่งใดและจุดไหน ที่สำคัญคือ จุดยืนของสินค้าที่ต้องโดดเด่นแตกต่างจากแบรนด์อื่น ๆ ครับ 

          ทั้งนี้มีอีกวิธีที่หลาย ๆ องค์กรเลือกใช้เพื่อจัดกลุ่มเป้าหมาย ให้เป็นหมวดหมู่เเละง่ายต่อการนำมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นการยิงโฆษณา หรือการขายต่อไปนั่นก็คือ การทำ Persona ของลูกค้าครับซึ่งผมได้อธิบายประโยชน์และวิธีการทำเอาไว้ที่ Blog การทำ persona หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุก ๆ คนนะครับ

สนใจศึกษาและลงทะเบียนได้ที่ www.mycloudfulfillment.com
หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร: 092-472-7742, 02-138-9920
อีเมล: hello@mycloudfulfillment.com
line: @mycloudgroup
MyCloudFulfillment ขายของง่ายไม่ต้องแตะสต๊อก
บริการคลังสินค้าออนไลน์ เก็บ แพ็ค ส่ง ครบวงจร